วิถีชีวิตของคนเมืองใหญ่ แม้มีวันเวลาว่างเว้นจากการทำงานประจำ พอจะนำรถคู่ใจชำระล้างคราบสกปรกให้สะอาดสดใสได้ตามที ทว่าข้อจำกัดทั้งสถานที่และเวลาแสนจำกัด ส่งผลให้คนใช้รถยนต์ส่วนใหญ่เต็มใจขับรถมุ่งหน้าไปยังคาร์แคร์ หรือสถานที่รับล้างรถยนต์ที่มีบริการล้างรถยนต์แบบใช้แรงงานคนและเครื่องล้างอัตโนมัติชำระล้าง หลากหลายระดับที่ผุดขึ้นทั่วทุกมุมเมือง 
 
          การเปิดสถานที่ให้บริการล้างรถยนต์มีหลากแบบ หากเป็นประเภทบริการรถยนต์ของ มหาชน ต้องยกให้สถานที่รับบริการล้างรถยนต์ประเภทแท็กซี่และรถตู้ขนส่งมวลชน ซึ่ง “ธงชัย ทองอ่อน” ผู้ดูแลคาร์แคร์ไร้ชื่อ ตั้งอยู่บนทำเลปั๊มแอลพีจีแห่งหนึ่ง ย่านหมอชิต อธิบายให้เห็นภาพ การบริการล้างรถยนต์ว่า ที่ร้านรับล้างรถแท็กซี่ รถตู้ รถกระบะ และรถมอเตอร์ไซค์ ตลอด 24 ชั่วโมง ให้บริการล้างสีและดูดฝุ่น โดยคิดราคารถแท็กซี่ ล้างสีคันละ 50 บาท และล้างสีดูดฝุ่น 70 บาท กระบะล้างสี 60 บาท หากล้างสีดูดฝุ่นเพิ่มเป็น 80 บาท รถตู้ล้างสี 60 บาท หากดูดฝุ่นเพิ่มด้วยคิด 100 บาท ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ 50 บาท
 
           ธงชัย บอกถึงวิธีการล้างรถให้ลูกค้าว่า ที่ร้านแบ่งการทำงานเป็น 2 กะ คือ กะกลางคืน และกะกลางวัน ช่วงกลางคืนใช้คนทำงาน 5 คนขึ้นไป เพราะคนที่นำรถมาล้าง ต้องการล้างแบบด่วน ใช้เวลาล้างรถแท็กซี่คันหนึ่งไม่เกิน 3 นาที รถตู้ใช้ 5 นาทีเสร็จ หรือในเวลา 1 ชั่วโมง ล้างรถได้ถึง 100 คัน สำหรับรถยนต์ที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นรถแท็กซี่ บางครั้งเข้ามาพร้อมกันนับ 100 คัน ช่วงเวลา 24.00-01.00 น. เพราะต้องนำรถส่งกะพร้อม ๆ กัน ส่วนกลางวัน มีรถแท็กซี่มาใช้บริการมากแบบต่อแถวยาวเหยียด ช่วงเวลา 12.00-15.00 น. 
 
           ขั้นตอนการบริการล้างรถแท็กซี่ว่า การให้บริการล้างรถที่ดูเร็ว แต่ต้องเน้นว่าทำดี สะอาด ทำเร็วถูกใจ ถ้าทำไม่สะอาดลูกค้าไม่กลับมา ขั้นตอนการล้างรถมีคนทำหน้าที่ฉีดน้ำทั่วคัน จากนั้นลงโฟม ลูบโฟมแล้วล้างออก ต่อด้วยการเช็ดด้วยผ้าขนหนูให้น้ำแห้ง เทคนิคอยู่ที่การเลือกผ้าขนหนู และแบ่งประเภทใช้งานของผ้า อย่างผ้าบางจะใช้เช็ดรถที่มาล้างตอนกลางคืน ผ้าจะได้แห้งไวทันใช้งานกับรถคันต่อไป ส่วนกลางวันใช้ผ้าบางหรือหนาก็ได้ เพราะมีแดดทำให้ผ้าแห้งเร็ว ผ้าขนหนูผืนหนึ่งมีอายุการใช้งาน 4-5 เดือน ที่สำคัญเทคนิคการล้างรถดีอยู่ที่คนล้าง ต้องมีความละเอียด
 
          อาร์พีเอ็ม ย่านทองหล่อ เป็นคาร์แคร์อีกระดับหนึ่ง ที่มีการบริการต่างจากคาร์แคร์ทั่วไป เน้นให้บริการแก่ลูกที่เป็นสมาชิกเท่านั้น สมาชิกแต่ละรายต้องชำระค่าบริการรายปี ปีละ 50,000 บาท และสามารถนำรถยนต์มาใช้บริการดูแลเรื่องความสะอาดได้ 3 คันในเวลา 1 ปี
 
          การบริการเริ่มเปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ให้บริการล้างรถยนต์เคลือบสี และทำความสะอาดห้องเครื่อง ดูดฝุ่นโดยใช้เวลาทำรายการต่าง ๆ 45-60 นาที การให้บริการจะเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าว่าต้องการให้ทำรายการใดบ้าง
 
          “สามารถ บุญธราทิพย์” ประธานกรรมการ บริษัท โปลิเคม อินเตอร์กรุ๊ป ผู้ให้บริการในศูนย์การค้าใหญ่ อธิบายให้เข้าใจว่า การดูแลของโปลิ-เคม โดยทำความสะอาดดูแลภายนอกตัวรถ ดูแลความสะอาดภายในตัวรถยนต์ทั้งเบาะ คอนโซล และพื้นพรม ดูแลห้องเครื่อง การดูแลเรื่องสี เมื่อลูกค้านำรถยนต์ขับมาใช้บริการจากศูนย์บริการคาร์แคร์ จะมีบริการหลายประเภทให้เลือก ตั้งแต่การทำความสะอาดภายนอกรถยนต์ด้วยโฟมและทำความสะอาดภายในด้วยการดูดฝุ่น และทำความสะอาดบริเวณคอนโซลหน้ารถและเบาะนั่งพร้อมมอบผลิตภัณฑ์ดูแลทำความสะอาดภายในรถให้ไปใช้ที่บ้าน สนนราคา 280 บาท
 
          นอกจากนี้ยังมีบริการ ทำความสะอาดห้องเครื่อง คิดราคา 780 บาท ส่วนรถลูกค้าคนไหนต้องการขัดเคลือบสี คิดราคา 2,500 บาท ส่วนการดูแลรถยนต์ด้วยวิธีสปารถยนต์ หมายถึง การดูแลรักษาความสะอาดรถด้วยการใช้วิธีล้าง  ขัดเคลือบสีด้วยโฟมและชุดเคลือบสีด้วยวิธีการ      ใช้ฟองน้ำลูบไล้เบา ๆ คิดราคา 3,000 บาท ซึ่งราคานี้รวมค่าบริการและชุดสปาที่ประกอบด้วยชุดเคลือบสี โฟมล้างรถขนาด 1000 ซีซี และฟองน้ำเพื่อนำไปใช้เองที่บ้าน
 
          “ชวลชิต สุดตาคาร” เจ้าของร้านล้างรถไฉไล ย่านรังสิต บอกว่าเทคนิคการล้างรถทำง่าย ๆ โดยการฉีดน้ำไล่ทราย ฝุ่น ที่ติดรถและล้อก่อน แล้วใช้ฟองน้ำลูบเบา ๆ เพื่อให้ทรายออกไปก่อน จากนั้นจึงฉีดโฟมที่ผสมแวกซ์ให้ทั่วแล้วใช้ฟองน้ำขัดถูเบา ๆ ให้สะอาด (กรณีถ้าไม่ไล่ทรายออกก่อนแล้วใช้โฟมฉีดทันที เมื่อลูบทำความสะอาดจะทำให้รถเป็นรอยได้) จากนั้นฉีดน้ำล้างโฟมออกให้หมด เข้าสู่ขั้นตอนเช็ดแห้ง โดยใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่คลุมแล้วลากยาวตั้งแต่ด้านหน้าจดด้านท้าย เพื่อซับน้ำออกไประดับหนึ่ง ก่อนใช้ผ้าที่แห้งเช็ดจนแห้ง แล้วเป่าลมไล่น้ำไปตามซอกต่าง ๆ จนกว่าจะแห้งสนิท ส่วนภายในจะใช้ผ้าชุบน้ำยาเช็ดทำความสะอาดเบาะ คอนโซล และล้อจะใช้น้ำยาเช็ดให้สะอาดและดูใหม่
 
          การดูดฝุ่น จะเริ่มย้ายพรมรองพื้น หรือสิ่งของในรถเพื่อความสะดวกระหว่างการดูดฝุ่นตามซอกมุมต่าง ๆ ให้หมด ขณะที่การล้างห้องเครื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบเครื่องยนต์ ต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ห้ามใช้น้ำแรงดันสูง สำหรับการล้างอัดฉีดจะเน้นไปที่ล้อมากกว่า.

ที่มา http://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=158