รถไฟฟ้าสายที่3ของไทย พร้อมให้บริการปีนี้

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ ชาวกรุงที่ต้องใช้เส้นทางถนนพระราม 9 ถนนเพชรบุรี คงสังเกตเห็นรถไฟฟ้าสายใหม่เริ่มปรากฏโฉมวิ่งไปบนรางให้เห็นกันแล้ว 
 
โครงการรถไฟฟ้าสายแอร์พอร์ตลิงค์ หรือ รถไฟฟ้าสายสีแดง เชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ มีชื่อเต็ม ๆ ว่า โครงการระบบขนส่งทางรถไฟ เชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (Suvarnabhumi Airport Rail Link) เริ่มการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2548 กำหนดแล้วเสร็จในปี 2550 ที่ผ่านมา แต่การไม่แล้วเสร็จตามกำหนดเนื่องจากมีปัญหาการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องขยายเวลาให้ผู้รับเหมา ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีได้ขยายเวลาให้ผู้รับเหมาจากผลกระทบเรื่องน้ำท่วมและผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมแล้วจะมีกำหนดแล้วเสร็จ 7 ส.ค. 2552 นี้ ในขณะที่ขบวนรถไฟฟ้าที่ใช้ในโครงการ 31 ขบวนได้ทยอยส่งมอบตั้งแต่ปี 2550 และได้มาถึงครบแล้วในปี 2551 ที่ผ่านมา

โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ เป็นโครงสร้างยกระดับบนทางรถไฟตั้งแต่บริเวณถนนพญาไท ไปตามทางรถไฟสายตะวันออก ไปจนถึงบริเวณสถานีลาดกระบังแล้วลดระดับลงเข้าสู่อุโมงค์สิ้นสุดที่ใต้อาคารผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทางรวม 28.5 กิโลเมตร มีรถไฟฟ้าที่ให้บริการ 2 ระบบ คือ รถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Express) ขบวนสีแดง และ รถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (City Line) ขบวนสีน้ำเงิน โดยรถแบบ Express จะวิ่งจากสถานีมักกะสัน ไปยังสถานีสุวรรณภูมิไม่จอดรับผู้โดยสารระหว่างทาง 1 ขบวนมี 4 โบกี้ โดยเป็นโบกี้สำหรับผู้โดยสาร 3 โบกี้ โดย 1 โบกี้จะจุผู้โดยสาร 170 ที่นั่ง ส่วนโบกี้ที่ 4 จะใช้สำหรับบรรจุกระเป๋าสัมภาระ ในขบวนรถจะมีห้องน้ำบริการ 1 ห้อง ซึ่งมีที่เฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่ใช้รถเข็นด้วย ให้บริการระหว่าง 05.00-01.00 น. รถวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 103 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงที่หมายภายใน 15 นาที 
 
สำหรับรถแบบ City Line จะจอดรับผู้โดยสารที่สถานีระหว่างทาง ซึ่งมีทั้งหมด 8 สถานี 1 ขบวน มี 3 โบกี้ รถไฟฟ้าจะวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จอดส่งสถานีละ 30 วินาที ใช้เวลาถึงปลายทางไม่เกิน 30 นาที โดยภายในรถจะมีที่นั่งแบบเดียวกับรถไฟฟ้าบีทีเอส จุผู้โดยสารประมาณ 745 คน (นั่ง 150 คน ยืน 595 คน) โดยคาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารในเส้นทางนี้ได้ 14,000 - 50,000 คนต่อวัน สำหรับค่าโดยสาร รถสาย Express จะจัดเก็บที่ 150 บาท ส่วนรถสาย City Line เริ่มต้นที่ 30 บาท ตลอดสายไม่เกิน 50 บาท 
 
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า “รฟท.จะพยายามเร่งรัดให้สามารถเปิดบริการตามกำหนดสัญญาการก่อสร้างซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งในช่วงแรกจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้า City Line แต่ในส่วนของรถไฟฟ้าแบบ Express นั้นระบบเช็กอินที่สถานีมักกะสัน จะไม่สามารถให้บริการเช็กอินผู้โดยสารที่มีสัมภาระที่ต้องโหลดขึ้นเครื่องบินได้ เพราะระบบลำเลียงสัมภาระยังไม่สมบูรณ์ บางขั้นตอนต้องใช้แรงงานคน ซึ่งต้องแก้ไขในจุดนี้ก่อน และจะต้องให้องค์กรภายนอก เช่น องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) เป็นผู้รับรองก่อนเปิดให้บริการ เพราะต้องเป็นไปตามมาตรการด้านความปลอดภัยระบบสากล อย่างไรก็ตาม รฟท.ได้จดทะเบียน จัดตั้งบริษัทเดินรถร่วม (รฟท.) จำกัด เพื่อมาดำเนินการเดินรถ การให้บริการเชิงพาณิชย์และงานบริหารสถานี ในระหว่างรอให้ ครม. อนุมัติจัดตั้งบริษัท จัดหาและว่าจ้างบุคลากรระดับบริหาร จำนวน 51 ตำแหน่ง และบุคลากรอีก 450 ตำแหน่ง” 
 
แม้ว่าการเปิดทดสอบเดินรถอย่างเป็นทางการครั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามให้เห็นถึงความพร้อมและความตั้งใจที่จะเปิดให้บริการโดยเร็ว แต่หากจะเปิดให้บริการโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ในเดือน ส.ค. 2552 ผู้รับเหมาต้องก่อสร้างงานให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อจะใช้เวลาอีก 90 วันในการทดสอบระบบ ซึ่งในความเป็นจริงขณะนี้งานก่อสร้างระบบรางบางช่วง และงานก่อสร้างสถานีบางแห่งยังไม่แล้วเสร็จ ส่งผลให้การทดสอบระบบต้องยืดเวลาออกไป ซึ่งแม้ว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค. ตามที่ได้รับการขยายเวลา แต่จะต้องใช้เวลาอีก 90 วัน เพื่อทดสอบระบบเดินรถ และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2552 ประกอบกับในส่วนของการให้บริการเช็กอินผู้โดยสาร และในระหว่างนี้ รฟท.อยู่ระหว่างการจัดหาบริษัทเพื่อให้บริการระบบเช็กอินอีก 
 
ไม่ว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในวันที่ 12 ส.ค. นี้หรือไม่ ... แต่คาดว่าคนกรุงเทพฯจะได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายที่ 3 ภายในปีนี้แน่นอน เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการเดินทาง ส่วนที่ต้องให้เป็นการบ้านสำหรับหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบก่อสร้างรถไฟฟ้า ควรคำนึงถึง การจัดทำระบบโครงข่ายถนนที่เข้า-ออกสถานีและที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเป็นการสนับสนุนให้คนหันมาใช้ขนส่งมวลชนอย่างแท้จริง .... ไม่ใช่เพิ่งมาคิดทำกันภายหลัง แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน.

8 สถานีแอร์พอร์ตลิงค์ 
 
1.สถานีพญาไท อยู่ทางฝั่งตะวันออกของถนนพญาไท เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพญาไท 
 
2.สถานีราชปรารภ อยู่บนถนนราชปรารภตัดกับถนนนิคมมักกะสัน ใกล้กับประตูน้ำ 
 
3.สถานีมักกะสัน (สถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง) อยู่บริเวณสถานีมักกะสันปัจจุบัน มีอาคารสถานีรถไฟฟ้าท่าอากาศยาน บริการเช็กอินเคาน์เตอร์ ผู้โดยสารสามารถเช็กอินและโหลดสัมภาระ ซึ่งรถไฟฟ้าจะส่ง   ต่อสัมภาระไปยังสายการบินต่าง ๆ ที่สุวรรณภูมิได้เลย มีที่จอดรถยนต์ รวมประมาณ 300 คัน รถจักรยานยนต์ 100 คัน พร้อมด้วยจุดจอดรถบัส รถ แท็กซี่ และสามารถเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีเพชรบุรีได้ 
 
4.สถานีรามคำแหง อยู่ติดกับถนนรามคำแหงบริเวณสี่แยกคลองตัน ใกล้กับมหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน 
 
5.สถานีหัวหมาก อยู่ทางทิศเหนือของถนนศรีนครินทร์ และสถานีรถไฟหัวหมาก ใกล้กับสี่แยกพัฒนาการ และทางหลวงพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์) 
 
6.สถานีบ้านทับช้าง ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของสถานีรถไฟบ้านทับช้างในปัจจุบัน ใกล้กับถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก และทางหลวงพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์) 
 
7.สถานีลาดกระบัง อยู่ติดกับถนนร่มเกล้า ใกล้กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟลาดกระบังในปัจจุบัน 
 
8.สถานีสุวรรณภูมิ อยู่ใต้ดินอาคารผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถผ่านเข้า-ออกได้จากทางอาคารผู้โดยสารและมีทางเชื่อมต่อกับโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ.

ที่มา http://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=634