มุสลิมไทยโพสต์

ความเห็นของนักวิเคราะห์ต่อราคาเหล็กปี 2013

          ในการประชุม Steel Summit ประจำปี ครั้งที่ 3 (3rd Annual Steel Summit Conference) ที่จัดขึ้นช่วงต้นเดือนตุลาคมในปีนี้ โดยมี John Anton นักเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการของ IHS Global Insight และ Timna Tanners นักวิเคราะห์กลุ่มสินค้าเหล็กและวัสดุจาก Bank of America Merrill Lynch Research เข้าร่วมอภิปรายถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ และคาดการณ์ราคาเหล็กแผ่น ซึ่งเมื่อปีก่อนนี้เคยคาดการณ์ได้ใกล้เคียง

ทัศนะของ John Anton

           John Anton เริ่มต้นบรรยายด้วยทิศทางของภาคก่อสร้างของสหรัฐ ฯ โดยสินเชื่อที่พักอาศัยยังคงซบเซา เนื่องจากการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยที่มีอย่างจำกัด การก่อสร้างอาคารพาณิชย์คาดว่าในปีหน้ายังไม่มีการเคลื่อนไหวจนกระทั่งปี 2014 - 2015 ภาคยานยนต์อาจเป็นอุตสาหกรรมเดียวที่มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากทั้งภูมิภาค NAFTA ตั้งเป้าผลผลิตสำหรับยานยนต์น้ำหนักเบาไว้ที่ประมาณ 15 ล้านคันในปีหน้า หรือเกือบจะเรียกไว้ว่าอุตสาหกรรมนี้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ตลาดผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กมีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะการขยายตัวของอุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซใน North Dakota ที่คาดว่าจะเติบโต 2 – 3% ต่อปี ผลิตภัณฑ์จากโลหะแปรรูปคาดว่าจะมีการฟื้นตัวที่ดี และจะช่วยเพิ่มความต้องการในปีหน้า ส่วนภาคก่อสร้างและเหมืองแร่ในปี 2013 จะยังทรงตัว และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ คาดว่ายังคงซบเซา จนกว่าจะมีการปรับปรุงรูปแบบและมีการก่อสร้างที่พักอาศัยเพิ่มขึ้น

           สำหรับอุตสาหกรรมเหล็ก ในช่วงวันที่เหลือก่อนหมดปี 2012 เข้าคาดว่าราคาเหล็กจะลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากราคาเหล็กในช่วงที่ผ่านมายังไม่ลดลงสอดคล้องกับราคาในตลาดโลกที่ ปรับตัวลงมาแล้ว สำหรับปี 2013 ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนคาดว่าจะร่วงลงต่ำกว่า 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ short ton (662 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน) ช่วงปลายปีหน้า โดยมีปัจจัยหลักคือ ระดับผลผลิตแร่เหล็กที่ล้นตลาด พร้อมๆ กับความต้องการที่ลดลงของจีนจะกดให้ราคาแร่เหล็กมีราคาที่ต่ำลง ขณะที่ราคาสูงสุดของปีหน้าคาดว่าจะไม่เกินระดับ 675 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน และเขาเชื่อว่าราคาจะไม่ขึ้นไปแตะที่ระดับ 700 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จนกว่าจะถึงปี 2014

ทัศนะของ Timna Tanners

          Timna Tanners มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับ Anton ที่ว่าราคาจะต้องปรับลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม Tanners มีมุมมองต่อราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนตลาด spot ที่อาจร่วงลงไปได้ถึงระดับ  500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ขณะที่ราคาที่สูงสุดในปี 2013 จะอยู่ในช่วง 675 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน โดยอ้างอิงจากต้นทุนวัตถุดิบ และคาดว่าราคาเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน นอกจากนี้ราคาสินแร่เหล็กจะแกว่งอยู่ในช่วง 90 – 110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน และคาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่แถวระดับ 110 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับปี 2013 ทั้งนี้ Tanners  ให้ข้อสังเกตว่า วัฎจักรของตลาดเหล็กจะสั้นลงไปได้จนถึงเวลาเพียง 3 เดือน และในรอบล่าสุดนี้ ดูเหมือนว่าอาจถึงจุดที่ต่ำสุดแล้ว

.................. จริงรึเปล่า??

ที่มา : http://guru.thaibizcenter.com