อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative industries) หัวใจของเศรษฐกิจสร้างสรรค์
จากนิยามของ UNCTAD ระบุไว้ว่า “อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative industries) คือหัวใจของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative economy)” เนื่องจาก ขอบเขตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ถูกกำหนดได้โดยขอบเขต จำนวน และขนาดของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ แต่นิยามของอุตสาหกรรมประเภทนี้ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียง และหาข้อสรุปเดียวกันไม่ได้ จึงมีความพยายามที่จะกำหนดนิยามของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไว้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแนวคิดหรือรูปแบบที่UNCTAD แบ่งแยกไว้ 4 รูปแบบคือ
v UK DCMS Model เป็นรูปแบบที่ใช้ในยุค ค.ศ.1990 ในสหราชอาณาจักร เพื่อปรับสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษให้ขับเคลื่อนโดยใช้การสร้างสรรค์ (Creativity) และนวัตกรรม (Innovation) ซึ่งได้ให้ความหมายของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไว้คือ อุตสาหกรรมที่ต้องการความคิดที่สร้างสรรค์ ทักษะ พรสวรรค์ และความสามารถพิเศษ ที่มีความเป็นไปได้ในการสร้างงาน และความมั่งคั่ง จากการใช้ประโยชน์ของทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่
v Symbolic Texts Model เป็นรูปแบบที่มีขึ้นในยุโรป โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรช่วงปี ค.ศ. 2002 แนว คิดนี้มองศิลปะชั้นสูง และได้รับความนิยมว่า เปรียบเสมือนความล้าหลังของกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจทางการเมืองและทางสังคม ดังนั้น จึงเปลี่ยนเข็มมาให้ความสนใจกับเรื่องของวัฒนธรรมที่ทันสมัยแทน ซึ่งกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแสดงออกมาผ่านทาง ผลผลิตอุตสาหกรรม การกระจายและการบริโภคข้อความที่เป็นสัญญลักษณ์ ที่มีการส่งต่อไปโดยเครื่องมือสื่อที่หลากหลาย เช่น ฟิล์มภาพยนตร์ การกระจายเสียง และข่าวสารต่างๆ เป็นต้น
v Concentric Circles Model รูป แบบนี้มาจากคำกล่าวที่ว่า มูลค่าทางวัฒนธรรมที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมทำให้เกิดคุณลักษณะที่มี ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของอุตสาหกรรมนั้นๆ แนวคิดเชิงสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นในศิลปะการสร้างสรรค์หลัก ซึ่งอยู่ในรูปของเสียง ข้อความ และภาพ ที่มีการถ่ายทอดออกไปในลักษณะที่เป็นชั้นวงกลมซ้อนกัน ยิ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางของชั้นวงกลมนี้มากเท่าไร นั่นหมายถึงสัดส่วนของความเป็นวัฒนธรรมต่อองค์ประกอบทางการค้าลดลงมากเท่า นั้น ในยุโรปนำแนวคิดนี้มาใช้ในการแจกแจงความเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของการ ศึกษาสำหรับ EU
v WIPO Copyright Model รูป แบบนี้กำหนดขึ้นบนพื้นฐานของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรง และทางอ้อมในการสร้างสรรค์ การผลิต การกระจายข่าว และการกระจายงานที่ได้รับลิขสิทธิ์ จุดเน้นจะอยู่ตรงทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นตัวทำให้เกิดการสร้างสรรค์ที่นำไป สู่การผลิตสินค้าและบริการขึ้นมา ความแตกต่างได้ถูกทำขึ้นระหว่างอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญา ได้จริง และอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นต่อการส่งสินค้าและบริการไปยังผู้บริโภค
โดย UNCTAD ยังได้ให้คำนิยามของ อุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ (Creative Industries) ว่า ประกอบด้วย
? เป็นวัฎจักรของการสร้างสรรค์ การผลิต การกระจายสินค้าและบริการที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และทุนทางปัญญา (Intellectual capital) เป็นวัตถุดิบขั้นต้น
? รวม กันเป็นกลุ่มกิจกรรมบนพื้นฐานความรู้ ที่เน้น (แต่ไม่จำกัด) ไปที่การใช้ศิลปะในการสร้างรายได้จากการค้าและสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
? ประกอบ ไปด้วย ผลิตภัณฑ์ที่แตะต้องได้ และบริการทางศิลปะ หรือทางปัญญาที่แตะต้องไม่ได้ โดยมีเนื้อหาในเชิงสร้างสรรค์ มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ และจุดมุ่งหมายทางการตลาดร่วมด้วย
? เปรียบเสมือนทางตัดกันระหว่าง ความเป็นศิลปะ สาขาบริการ และสาขาอุตสาหกรรม ซึ่งรวมกันเป็นสาขาใหม่ที่มีพลวัตรในการค้าโลก
จากแนวคิดและรูปแบบที่แตกต่างกันดังกล่าว ทำให้การจำแนกประเภทของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มีความแตกต่างกันไป ดังนี้
ระบบการจำแนกประเภทของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มาจากรูปแบบที่แตกต่างกัน 4 รูปแบบ
UK DCMS Model
|
Symbolic Texts Model
|
Concentric Circles Model
|
WIPO Copyright Model
|
UNDP
|
Advertising
Architecture
Art and antiques market
Crafts
Design
Fashion
Film and video
Music
Performing arts
Publishing
Software
Television and radio
Video and computer games
|
Advertising
Film
Internet
Music
Publishing
Television and radio
Video and computer games
Peripheral cultural industries
Creative arts
Borderline cultural industries
Consumer electronics
Fashion
Software
Sport
|
Literature
Music
Performing arts
Visual arts
Other core cultural industries
Film
Museums and libraries
Wider cultural industries
Heritage services
Publishing
Sound recording
Television and radio
Video and computer games
Related industries
Advertising
Architecture
Design
Fashion
|
Advertising
Collecting societies
Film and video
Music
Performing arts
Publishing
Software
Television and radio
Visual and graphic art
Interdependent copyright industries
Blank recording material
Consumer electronics
Musical instruments
Paper
Photocopiers, photographic equipment
Partial copyright industries
Architecture
Clothing, footwear
Design
Fashion
Household goods
|
Heritage :
Traditional cultural expressions
Arts & crafts
Festival & celebrations
Cultural sites
Archaeological sites
Museums
Libraries
Exhibitions, etc.
Arts :
Visual arts
Painting
Sculpture
Photography & antiques
Performing arts
Live music
Theatre
Dance
Opera
Circus
Puppetry, etc.
Media :
Publishing & printed medias
Books
Press & publication
Audiovisuals
Film
Television
Radio & other broadcasting
Functional creations :
Design
Interior
Graphic
Fashion
Jewelry
Toys
New media
Software
Video games
Digitalized creative content
Creative services
Architectural
Advertising
Cultural & recreational
Creative research & development
Digital & other related creative services
|
ที่มา : รวบรวมจาก “Creative Economy Report 2008” UNCTAD
ทั้งนี้ ในส่วนของ UNCTAD ได้แบ่งประเภทอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ออกเป็น 4 ประเภท คือ
1. ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม (Heritage or cultural heritage) เป็น กลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ โบราณคดี วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ และสภาพสังคม เป็นต้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มการแสดงออกทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม (Traditional cultural expression)เช่น ศิลปะและงานฝีมือ เทศกาลงานและงานฉลอง เป็นต้น และกลุ่มที่ตั้งทางวัฒนธรรม (Cultural site) เช่น โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด และการแสดงนิทรรศการ เป็นต้น
2. ประเภทศิลปะ (Arts) เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์บนพื้นฐานของศิลปะ และวัฒนธรรม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ งานศิลปะ (Visual arts)เช่น ภาพวาด รูปปั้น ภาพถ่าย และวัตถุโบราณ เป็นต้น ศิลปะการแสดง (Performing arts) เช่น การแสดงดนตรี การแสดงละคร การเต้นรำ โอเปร่า ละครสัตว์ และการเชิดหุ่นกระบอก เป็นต้น
3. ประเภทสื่อ (Media) เป็นกลุ่มสื่อผลิตงานสร้างสรรค์ที่สื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ งานสื่อสิ่งพิมพ์ (Publishing and printed media) เช่น หนังสือ หนังสือพิมพ์ และสิ่งตีพิมพ์อื่นๆ เป็นต้น และงานโสตทัศน์ (Audiovisual) เช่น ภาพยนตร์ โทรทัศน์ วิทยุ และการออกอากาศอื่นๆ เป็นต้น
4. ประเภท Function creation เป็นกลุ่มของสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มการออกแบบ (Design) เช่น การออกแบบภายใน กราฟฟิค แฟชั่น อัญมณี และของเด็กเล่น เป็นต้น กลุ่มสื่อประยุกต์ (New media) ได้แก่ ซอฟต์แวร์วิดีโอเกมส์ และผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เป็นต้น และกลุ่มบริการทางความคิดสร้างสรรค์ (Creative services) ได้แก่ สถาปนิก โฆษณา วัฒนธรรม และนันทนาการ งานวิจัยและพัฒนา และบริการอื่นๆที่เกี่ยวกับข้องกับดิจิทัล และความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น
ที่มา http://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=5775 |